ปกป้องหนังศีรษะที่คุณรักให้ห่างไกลจาก…รังแค

รังแคเป็นอีกหนึ่งปัญหา ที่สร้างความรำคาญและความวิตกกังวลอย่างมากต่อผู้ที่มีอาการ ดังนั้นการเข้าใจปัญหาอย่างแท้จริง จะช่วยให้เราสามารถป้องกัน หลีกเลี่ยง และรักษาได้อย่างถูกวิธี รวมถึงช่วยคืนความมั่นใจและสร้างบุคลิกภาพให้ดีขึ้นด้วยค่ะ

รังแค (Dandruff)

รังแค (Dandruff) คือ สะเก็ดหรือแผ่นสีขาว (White flakes) ที่เกิดจากการผลัดเซลล์ผิวบริเวณหนังศีรษะที่มากกว่าปกติ ซึ่งปกติแล้ว หนังศีรษะจะมีการผลัดเซลล์ (Scalp exfoliation) อยู่ตลอดเวลา โดยจะผลัดเอาเซลล์ที่ตาย (Dead cell) แล้ว บริเวณชั้นผิวหนังที่อยู่นอกสุด (Epidermis) ออกไป มีลักษณะ เป็นสะเก็ดแห้ง ชิ้นเล็ก ๆ สามารถหลุดออกจากหนังศีรษะได้เอง หรืออาจจะหลุดออกในขณะที่หวีผม และเกิดขึ้นได้ทั่วทั้งศีรษะ

อาการระคายเคืองที่มักพบเมื่อเกิดรังแค

● หนังศีรษะแห้ง (Dry scalp)
● เกิดอาการคัน (Itching), แสบร้อน (Burning) หรือการอักเสบ (Eczema) ที่หนังศีรษะ เมื่อเกิดการสะสมรังแคในปริมาณมาก จะทำให้รังแคเข้าไปอุดตันรูขุมขนของเส้นผม ทำให้ต่อมไขมันบริเวณรากผม (Hair follicle) ไม่สามารถระบายออกมาได้ ทำให้หนังศีรษะแห้งกร้านเพราะขาดความชุ่มชื้น ก่อให้เกิดอาการคันและระคายเคืองที่หนังศีรษะ

สาเหตุที่ทำให้เกิดรังแค

สาเหตุหลักของการเกิดรังแค

เกิดจากเชื้อราประจำถิ่น (Malassezia globoza) ซึ่งอาศัยอยู่บริเวณรูขุมขนของหนังศีรษะ มีการเพิ่มจำนวนเป็น 2 เท่าจากปกติ ทำหน้าที่เปลี่ยนไขมันบริเวณหนังศีรษะ ให้เป็นไขมันไม่อิ่มตัว (Unsaturated fat) และไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ ทำให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวบริเวณหนังศีรษะ (Scalp exfoliation) ที่เร็วกว่าปกติ และเกิดรังแคขึ้นในที่สุด

นอกจากนั้นยังมีปัจจัยอย่างอื่นร่วมด้วย

เช่น โรคผิวหนังอักเสบ (Seborrheic Dermatitis), ความไม่สมดุลของฮอร์โมน (Hormone Imbalance), ต่อมไขมันใต้หนังศีรษะผลิตน้ำมันมากเกินไป (Sebum production), การมีผิวที่แห้ง (Dry skin), สภาพอากาศ (Dry air), ความเครียด (Mental stress), การแพ้ผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม (Hair care product)

การป้องกันรังแคและอาการระคายเคืองหนังศีรษะ

สามารถทำได้ ดังนี้
1. หลีกเลี่ยงสารที่อาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองต่อผิวหนัง เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ (Alcohol), ซิลิโคน (Silicone) และสารกันเสีย (Paraben) เป็นต้น
2. หลีกเลี่ยงอากาศร้อนหรือเย็นจัด เนื่องจากสภาพอากาศส่งผลต่อการทำงานของต่อมไขมัน ทำให้ผิวหนังอักเสบ แห้งและ เกิดการลอกได้ง่าย
3. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะ กลุ่มวิตามินบี (Vitamin B), สังกะสี (Zinc) หรือไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น โอเมก้า 3 (Omega 3)
4. ออกกำลังกาย และพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อช่วยผ่อนคลายความเครียด
5. หลีกเลี่ยงการแกะ เกา เมื่อมีอาการคันที่หนังศีรษะ
6. เช็ดผมให้แห้งทุกครั้งหลังสระ
7. เลือกผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น (Moisturizing) ให้กับหนังศีรษะ และดูแแลสุขภาพหนังศีรษะให้แข็งแรงอยู่เสมอ เพื่อป้องกันรังแคที่อาจเกิดขึ้นซ้ำได้

และสำหรับผู้ที่มีปัญหามากจนส่งผลถึงคุณภาพชีวิต นอกจากเรื่องการให้ความชุ่มชื้นที่เข้มข้นแล้ว ลองพิจารณาคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่สามารถกระตุ้นการทำงานของเซลล์บริเวณหนังศีรษะ ที่จะช่วยให้หนังศีรษะแข็งแรงขึ้น ลดอาการคันหรือระคายเคือง และช่วยให้หนังศีรษะผ่อนคลายจากการไหลเวียนของโลหิตที่ดีขึ้น รวมถึงพิจารณาคุณสมบัติอื่นๆ เช่นไม่ก่อให้เกิดการแพ้, ไม่ทำให้เกิดรังแแคเพิ่มขึ้น หรือทำให้หนังศีรษะเกิดการอักเสบอันเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้หนังศีรษะแห้งอย่างรุนแรงและเกิดรังแคร่วมด้วยนะคะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *